วันอังคารที่ 23 กรกฎาคม พ.ศ. 2556

กระแสนิยมเคป๊อปกระทบวัยรุ่นไทย!!! -[]-

กระแสนิยมเคป๊อปกระทบวัยรุ่นไทย!!! -[]-

รศ.อุบลรัตน์ ศิริยุวศักดิ์ ภาควิชาการสื่อสารมวลชน คณะนิเทศศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เปิดเผยว่า จากการศึกษาวิจัย กระบวนการเอเชียภิวัตน์ของวัฒนธรรมป๊อปเกาหลี (เคป๊อป) : การผลิต การบริโภค และการสร้างอัตลักษณ์ของวัยรุ่นไทย พบว่า สินค้าวัฒนธรรมป๊อปเอเชีย ซึ่งประกอบด้วยสินค้าหลากหลายประเภท เช่น ภาพยนตร์ ดนตรี ละครโทรทัศน์ หนังสือการ์ตูน นิตยสาร เว็บไซต์ เกมออนไลน์ เป็นต้น กำลังได้รับความนิยมอย่างกว้างขวางในกลุ่มผู้บริโภควัยรุ่นตามมหานครของเอเชีย โดยยุคปัจจุบันสินค้าวัฒนธรรมป๊อปเกาหลีที่เข้ามาแพร่หลายอย่างรวดเร็วในไทย เป็นผลมาจากการที่เกาหลีได้ศึกษาวิจัยด้านการตลาดของภูมิภาคเอเชีย และวัฒนธรรมเฉพาะของแต่ละประเทศว่าสินค้าวัฒนธรรมประเภทใดที่เป็นที่นิยม สามารถเปิดตลาดในประเทศเพื่อนบ้านได้ ประกอบกับเกาหลีได้พัฒนาบุคลากรที่เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยี ส่งออกสินค้าอุตสาหกรรมประเภทต่างๆ ไปยังประเทศต่างๆ ในเอเชีย จึงต้องการเนื้อหาความบันเทิงจากสินค้าทางวัฒนธรรมมารองรับ

รศ.อุบลรัตน์กล่าวว่า ที่สำคัญคือรัฐบาลเกาหลีเป็นผู้ลงทุน และวางโยบายเรื่องการส่งสินค้าทางวัฒนธรรมในตลาดเอเชีย โดยจัดทำแผนปฏิบัติการ และพัฒนาบุคลากรฝ่ายสร้างสรรค์ เนื้อหาสาระด้านเพลง ละคร ภาพยนตร์ ด้วยนโยบายของภาครัฐ และความพร้อมของภาคเอกเชน ทำให้สินค้าทางวัฒนธรรมของเกาหลีประสบความสำเร็จด้านการตลาดในประเทศต่างๆ

กระแสนิยมของสินค้าทางวัฒนธรรมจากเกาหลีส่งผลกระทบต่อพฤติกรรมวัยรุ่นไทย ทำให้เกิดการเรียนรู้เกี่ยวกับกระแสนิยมของวัยรุ่นในภูมิภาคเอเชีย เปรียบเทียบกับอัตลักษณ์ของตนเองในฐานะวัยรุ่นไทย และวัฒนธรรมป๊อปของสังคมในบ้านเรา ผลกระทบอีกด้านคือเศรษฐกิจ โดยวัยรุ่นไทยต้องเสียค่าใช้จ่ายแต่ละเดือนไม่น้อยสำหรับซื้อสินค้าทางวัฒนธรรม นอกจากนี้ ยังเกิดความสนใจเรียนภาษาเกาหลีเพิ่มขึ้น เพื่อให้รู้เนื้อหาในภาพยนตร์ ละคร เพลงของเกาหลี และแบ่งปันความรู้ผ่านอินเตอร์เน็ต โดยวัยรุ่นอีกส่วนหนึ่งใช้เวลาว่างเรียนร้องเพลง และการแสดงต่างๆ สิ่งเหล่านี้ทำให้วัยรุ่นไทยได้เรียนรู้กระบวนการทางนิเทศศาสตร์ และเทคโนโลยีต่างๆ รศ.อุบลรัตน์กล่าว

รศ.อุบลรัตน์กล่าวว่า แม้กระแสความนิยมทางสินค้าวัฒนธรรมของเกาหลีจะมีอิทธิพลต่อวัยรุ่นไทยอย่างมาก แต่เป็นไปในลักษณะผสมผสานกับค่านิยมวัฒนธรรมไทย ในภาพรวมจึงไม่ทำให้สูญเสียอัตลักษณ์ของวัยรุ่นไทย อย่างไรก็ตาม สื่อมวลชนไทยควรมีบทบาทที่เข้มแข็งในการสร้างภูมิคุ้มกันการเรียนรู้ของวัยรุ่น สังคมไทยจะต้องมองปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้น และก้าวตามให้ทันว่าสิ่งเหล่านี้เป็นเพียงสินค้า วัฒนธรรม ค่านิยม เป็นมิตรภาพ หรือการครอบงำทางวัฒนธรรม

ตลอดช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาข่าวที่จับจองพื้นที่หน้าหนึ่งของหนังสือพิมพ์หลายฉบับมากที่สุดคงจะไม่พ้นข่าวการตายของราชาเพลงป๊อประดับโลก "ไมเคิล แจ็กสัน" ถึงขนาดแย่งพื้นที่ข่าวการโฟนอินข้ามประเทศมาออดอ้อนสาวกเสื้อแดงอย่างอดีตนายกทักษิณ ชินวัตร ได้ซะเงียบสนิท จนเมื่อวานก็มีกระแสข่าวออกมาว่ามีบรรดาแฟนคลับของไมเคิลฆ่าตัวตายตามไปแล้วถึง 12 คน

กระแสคลั่งไคล้ดาราไม่ได้เพิ่งเกิดแต่เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นมานานแล้วในสังคมไทย ไม่ว่าจะเป็นกระแสคลั่งดารา ศิลปินเจป๊อปของญี่ปุ่นหรือเคป๊อปของเกาหลี เห็นได้จากการกระแสคลั่งไคลศิลปินเคป๊อปอย่าง "ดงบังชินกิ" ที่ไม่รู้ว่าใครเป็นคนตั้งฉายาให้ถึงขนาดเป็น "เทพเจ้าแห่งโลกตะวันออก" ที่มาจัดคอนเสิร์ตที่อิมแพ็ค อารีน่า เรียกเสียงกรี๊ดของวัยรุ่นวัยโจ๋ไทยได้ไปหลายเมื่อช่วงสิ้นเดือนที่ผ่านมา ไม่เพียงแค่นี้ ยังมีซีรีส์กาหลีและเกมจากเกาหลีที่เข้ามาฮิตในเมืองไทยจนกลายเป็นกระแสเกาหลีฟีเวอร์

และจากกระแสคลั่งเกาหลีนี่เอง ที่ทำให้เกิดการลอกเลียนแบบทั้งการแต่งกายและวัฒนธรรม จนถึงขั้นการเดินทางไปทำศัลยกรรมที่เกาหลีเพื่อให้ได้มีใบหน้าละม้ายคล้ายดาราศิลปินที่ชื่นชอบ








วันจันทร์ที่ 8 กรกฎาคม พ.ศ. 2556

ดอกไม้ประจำชาติเกาหลี!!!




            นั่นคือ คือดอกมูกุงฮวา (무궁화) หรือ Rose of Sharon ซึ่งจะบานสะพรั่งทั่งประเทศระหว่างเดือนกรกฎาคมถึงเดือนตุลาคม สิ่งที่ทำให้ดอกไม้ชนิดนี้ไม่เหมือนดอกไม้ชนิดอื่นคือสามารถทนสภาพอากาศที่เลวร้ายและศัตรูพืชได้เป็นอย่างดี ความหมายของคำว่า มูกุงฮวา มาจากรากศัพท์ มูงกุง (무궁) ซึ่งหมายถึงความเป็นอมตะ ซึ่งสะท้อนความเป็นอมตะของประวัติศาสตร์เกาหลี ความมุ่งมั่น และความอดทนของชาวเกาหลี




วันอาทิตย์ที่ 7 กรกฎาคม พ.ศ. 2556

สกุลเงินของประเทศเกาหลีใต้


สกุลเงินของประเทศเกาหลีใต้!!!

    ธนบัตร จำนวน 5,000 วอน (₩5,000)
    ธนบัตร จำนวน 10,000 วอน (₩10,000)
    ธนบัตร จำนวน 50,000 วอน (₩50,000)
    เหรียญจำนวน 5 วอน (₩5)   
    เหรียญจำนวน 10 วอน (₩10)
    เหรียญจำนวน 50 วอน (₩50)
    เหรียญจำนวน 100 วอน (₩100)
    เหรียญจำนวน 500 วอน (₩500)
ราชกิจต่างๆของพระเจ้าเซจงมหาราชนั้นยังคุณประโยชน์มากมายต่ออาณาจักรโชซอน และรวมไปถึงประเทศเกาหลีทั้งเหนือและใต้ในปัจจุบันด้วย เพราะทรงส่งเสริมวัฒนธรรมเกาหลี ทำให้ชาวเกาหลีมีความภาคภูมิใจในวัฒนธรรมของตนเองในทุกวันนี้
         



KRW ธนบัตรของเกาหลีใต้จะมี 4 ชนิดคือ
    ธนบัตร จำนวน 1,000 วอน (₩1,000)
เหรียญของเกาหลีใต้จะมี 6 ชนิดคือ
    เหรียญจำนวน 1 วอน (₩1)




รูปบุคคลที่อยู่ในธนบัตร 1000 วอน มีชื่อว่า (퇴계이황/Toegye Lee-hwang) ทเว เก ลีฮวาง (มีชีวิตระหว่างค.ศ.1510-1570) เป็นหนึ่งในสองของปราชญ์ขงจื๊อที่โดดเด่นที่สุดของเกาหลีสมัยราชวงศ์โชซอนอีกคนคือ ท่านยูล-กก ลีอี (율곡 이이) ท่านทเว เก ลีฮวาง เป็นลูกชายคนสุดท้องในพี่น้องทั้งหมดแปดคน
    ท่านเป็นเด็กอัจฉริยะมากเพราะได้เรียนรู้กวีนิพนธ์ของขงจื๊อจนแตกฉานตอนอายุได้แค่ 12 ปี จากลุงของท่าน ได้เข้ารับราชการเมื่ออายุ 27 ปี และในวัย 33 ปีก็ได้ผ่านการสอบราชการที่มีเกียรติสูงสุดและได้ดำรงตำแหน่งสำคัญๆหลายตำแหน่งด้วยกันหลังจากที่ท่านได้รับราชการอยู่นานถึง 40 ปี รวมแล้ว ถึง 4 รัชสมัยคือ พระเจ้าจุงจง (중종/Jungjong), พระเจ้าอินจง (인종/ Injong), พระเจ้ามยองจง (명종/Myeongjong) และ พระเจ้าซอนโจ (선조/Seonjo) ก็ตัดสินใจออกจากราชวังและกลับไปยังหมู่บ้านที่เป็นจุดเริ่มต้นของชื่อเสียงของท่าน และได้เขียนทฤษฎีและหลักเหตุผลมากมายเกี่ยวกับลัทธิขงจื๊อที่กลายมาเป็นวิชาที่ผู้คนปัจจุบันทั้งตะวันออกและตะวันตกของโลกศึกษากันอยู่จนถึงปัจจุบันและยังเป็นผู้ก่อตั้งสถาบันการศึกษาโดซาน(โดซานซอวอน 도산서원)  ขึ้นมาอีกด้วย  การตายของท่านทเว เก ลีฮวางได้รับเกียรติอย่างสูงสุดด้วยการนำศพไปฝังอยู่ในศาลขงจื้อเช่นเดียวกับในศาลของพระเจ้าซอนโจ (선조/Seonjo)



รูปบุคคลที่อยู่ในธนบัตร 5000 วอน มีชื่อว่า  ( 율곡 이이/Yulgok Yi Yi) ยูล-กก  อีอี  (ค.ศ.1536-1584) เป็นหนึ่งในสองของปราชญ์ขงจื๊อที่โดดเด่นที่สุดของเกาหลีสมัยราชวงศ์โชซอนอีกคนคือ ทเว เก ลีฮวาง(퇴계이황/Toegye Lee-hwang) ท่านเป็นที่รู้จักกันว่าเป็นอัจฉริยะเนื่องจากสามารถผ่านการสอบเข้ารับราชการด้วยวัยเพียง 13 ปี โดยฉายาที่ท่านได้รับจากคนทั่วไปคือ  ยูล-กก (율곡/Yulgok) ซึ่งแปลว่า (“เกาลัดหุบเขา”) ดังนั้นท่านจึงได้ชื่อว่า ยูล-กก อีอี (율곡 이이) ที่มาของฉายาท่านเนื่องจากหลังการตายของแม่ของท่านเมื่ออายุ 16 ปี ท่านได้หลบไปพักอยู่ที่ ภูเขาคึมกัง (금강산/Kumgang-san) ซึ่งอยู่ทางตอนเหนือของเกาหลี ปัจจุบันอยู่ในเขตเกาหลีเหนือ และพักอยู่เป็นเวลา 3 ปีเพื่อศึกษาพุทธศาสนา ท่านออกจากภูเขาเมื่ออายุได้  20 ปี และอุทิศตนเพื่อการศึกษาปรัชญาขงจื้อ  
     ท่านยูล-กก อีอี ไม่เพียง แต่เป็นที่รู้จักกันว่าเป็นนักปรัชญาที่ยอดเยี่ยมเท่านั้น แต่ท่านยังเป็นนักปฏิรูปสังคมและหลังจากรับราชการอยู่นาน ท่านก็ลาออกและอุทิศชีวิตตัวเองให้กับการเขียนหนังสือ ท่านเขียนหนังสือมากมายเกี่ยวกับปรัชญา ลัทธิขงจื๊อ และการปกครอง



รูปบุคคลที่อยู่ในธนบัตร 10000 วอน มีชื่อว่า (세종대왕/Sejong the Great) เซ จง แท วัง หรือ พระเจ้าเซจงมหาราช มีชีวิตอยู่ในช่วง ค.ศ. 1397 – 1450    
     พระเจ้าเซจงมหาราช (세종대왕)   ทรงเป็นพระมหากษัตริย์พระองค์ที่ 4 แห่งราชวงศ์โชซอนของเกาหลี (พ.ศ. 1961 ถึง พ.ศ. 1993) ทรงเป็นที่รู้จักในการที่ทรงประดิษฐ์อักษรเกาหลีฮันกึล และทรงเป็นหนึ่งในสองกษัตริย์เกาหลีที่มีพระนามเป็นมหาราช (อีกพระองค์คือพระเจ้ากวางแกโตมหาราช แห่งราชวงศ์โกคูรยอ)



 รูปบุคคลที่อยู่ในธนบัตร 50000 วอน มีชื่อว่า (신사임당/Shin Saimdang) นางชิน ซาอิมดัง   มีชีวิตอยู่ในช่วง ค.ศ. 1504-1551 ด้านหน้าของธนบัตร จะเป็นผลงานศิลปะ กับภาพของนางชิน ซาอิม-ดัง ศิลปินผู้มีชื่อเสียง งานศิลปะของท่านเป็นที่รู้จักสำหรับความงดงามและอ่อนโยนอาทิ แมลง, ดอกไม้, ผีเสื้อ, กล้วยไม้, องุ่น, ปลาและภูมิทัศน์ เธอยังเป็นมารดาของ ( 율곡 이이) ยูล-กก  อีอี นักปราชญ์ลัทธิขงจื้อผู้มีชื่อเสียงด้วย ทำให้ผู้คนทั่วไปมักรู้จักเธอในสมญานามว่า” คุณแม่ผู้ปราดเปรื่อง” (wise mother)นางชินเป็นสตรีผู้ได้รับความเคารพนับถือมากที่สุดคนหนึ่งในราชวงศ์โชซอนของเกาหลีใต้ซึ่งปกครองประเทศช่วงปี พ.ศ.1935 ถึง 2453 นางชิน ซาอิม-ดังเสียชีวิตเมื่อปี พ.ศ.2094 เป็นครั้งแรกที่สตรีได้ปรากฎโฉมอยู่บนธนบัตรสกุลเงินเกาหลีใต้ ซึ่งเป็นสังคมที่ผู้ชายเป็นใหญ่ ท่านเป็นมารดาของ  ( 율곡 이이) ยูล-กก  อีอี ซึ่งเป็นบุคคลที่อยู่ในธนบัตร 5000 วอนนั่นเอง




GOT7 "너란 걸(Magnetic)" Dance Practice